รมว.อุตสาหกรรม เผย คกก.ขนย้ายกากแคดเมียมฯ เตรียมแจ้งแผนขนย้ายให้อุตสาหกรรมจังหวัด สมุทรสาคร ตาก และชลบุรี 16 เม.ย.นี้ พร้อมขอให้บริษัทฯ เพิ่มมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมในการขนส่ง มีกระบวนการตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นการปิดหลุมฝังกลบ ตรวจติดตามน้ำใต้ดินจากบ่อสังเกตการณ์รอบพื้นที่ทุก 3 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน  

วันที่ 15 เมษายน 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รายงานถึงผลการประชุมของ คณะกรรมการอำนวยการขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสี ว่า วันนี้ (15 เมษายน)  ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแผนการขนย้ายกากแคดเมียมของบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)  ที่ได้ปรับปรุงมาใหม่ โดยบริษัท ฯ ตอบรับการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกจาก 10 คัน เป็น 30 คัน ตามที่คณะกรรมการฯ แจ้ง เพื่อให้สามารถขนย้ายกากแคดเมียมได้ถึง 450 ตันต่อวัน และลดระยะเวลาในการขนย้ายทั้งหมดจากเดิมที่ใช้เวลา 92 วัน ลงเหลือ 36 วัน โดยจะเริ่มทำการเคลื่อนย้ายกากจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพฯ และชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 หลังจากที่ทำการเตรียมความพร้อมของบ่อฝังกลบ และทำความเข้าใจให้ประชาชนรอบโรงงานที่จังหวัดตาก เรียบร้อยแล้ว
 
นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมบ่อฝังกลบน กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบความแข็งแรงปลอดภัยของบ่อร่วมกับโยธาธิการจังหวัดและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 17 เมษายน นี้ โดยจะตรวจสอบพื้นบ่อที่ปูด้วยแผ่นพลาสติก HDPE หนา 1.5 มม. จำนวน 2 ชั้น ว่าอยู่ในสภาพที่ดีไม่มีการฉีกขาด สามารถป้องกันการรั่วไหลของกากได้ รวมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของพื้นปูนและขอบบ่อในภาพรวม หากไม่มั่นคงแข็งแรง ก็จะสั่งการให้มีการปรับปรุงให้เรียบร้อยโดยเร็ว  

ทั้งนี้ ในระหว่างการฝังกลบกากแคดเมียม จะต้องมีการสเปรย์น้ำที่บ่อฝังกลบระหว่างเคลื่อนย้ายกากลงหลุมเพื่อกันการแพร่กระจายของฝุ่นผง และการปรับเสถียรในบ่อฝังกลบ เมื่อทำการนำกากลงบ่อจนหมดแล้ว จะทำการเกลี่ยกากในบ่อให้เรียบแล้วทำการเททราย จากนั้นปูทับด้วยพลาสติก HDPE อีกชั้น ก่อนที่จะเทคอนกรีตเสริมเหล็กปิดบ่อเป็นขั้นตอนสุดท้าย

คณะกรรมการฯ ได้ขอให้บริษัทฯ เพิ่มมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมในการขนส่งตั้งแต่ ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง การจัดหาถุง Big Bag เพื่อทำการสวมทับถุงเดิมอีกชั้นหนึ่ง (Double Bag) ก่อนการขนส่งเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการรั่วหรือฟุ้งกระจายของกากในระหว่างการขนส่ง รวมถึงขอให้เพิ่มกระบวนการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลังเสร็จสิ้นการปิดหลุมฝังกลบแล้ว โดยตรวจติดตามคุณสมบัติน้ำใต้ดินจากบ่อสังเกตการณ์ (Monitoring Well) โดยรอบพื้นที่ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการรั่วไหลของกากแคดเมียมหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายหลังเสร็จสิ้นการดำเนินการอย่างแท้จริง หลังจากบริษัทฯ ได้ส่งแผนฉบับแก้ไขมาให้กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานชุดใหญ่แล้ว กระทรวงจะร่วมกับบริษัทฯ ในการทำความเข้าใจกับประชาชนโดยรอบโรงงาน ถึงวิธีการขนย้าย และมาตรการความปลอดภัยทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน 

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 เมษายน 2567) คณะกรรมการ ฯ จะชี้แจงแผนการขนย้ายกากแคดเมียมให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 3 พื้นที่ (สมุทรสาคร ตาก และ ชลบุรี) รวมถึงประเด็นการปรับปรุงคำสั่งทางปกครองของอุตสาหกรรมจังหวัดที่จะต้องสอดคล้องกับแผนการขนย้าย และการประสานกับ บก.ปทส. ในเรื่องการโอนของกลาง (กากแคดเมียมที่ได้ยัดอายัด และทำการตรวจนับแล้ว) ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบฝ่ายเลขาจัดเตรียมข้อมูลทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อคณะทำงานชุดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 6 กระทรวง โดยมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

“พิมพ์ภัทรา” เร่ง 13 เม.ย. นี้ สั่งทำแผนขนย้าย “กากแคดเมียม” ฝังกลบ จ.ตาก